วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

คริสเตียนคือ...


ความหมายของการมาเป็นคริสเตียน

คริสเตียนคือ...

เริ่มจากปฐมกาล  "ข้อ 2 แผ่นดินก็ว่างเปล่า  ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้น" 
ข้อ 27 พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์  ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ข้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง
ข้อ 28 พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน"
บทที่ 2 ข้อ 7 พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต
เท่าที่อ่านมาพอจะสรุปได้ว่า  มนุษย์มีชีวิตเพราะลมปราณของพระเจ้า  ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงผงคลีดิน  ส่วนลมปราณของพระเจ้านี้คืออะไร คงต้องแล้วแต่การตีความของแต่ละคน  ส่วนผมขอตีความว่า เป็นพระวิญญาณของพระเจ้า

เหตุผลที่ตีความว่าเป็น  พระวิญญาณของพระเจ้า หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่เราเรียกกันในปัจจุบัน เพราะพระเจ้าประทานสิ่งที่ดีที่สุด ให้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างเสมอ และพระวิญญาณของพระเจ้าก็ได้อยู่ร่วมกับพระองค์ตั้งแต่ตอนสร้างโลก และผมเชื่อว่าพระวิญญาณของพระเจ้าคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พระองค์ประทานให้กับเรา และเป็นพระวิญญาณที่กระทำกิจในองค์พระเยซูคริสต์ขณะเมื่อพระเยซูทรงกระทำกิจบนแผ่นดินโลก  เพื่อพระเยซูได้บอกสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ หลังจากฟื้นขึ้นจากความตาย นั่นคือให้เรารอคอยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระองค์ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับทุกคน (ทุกคน) ที่รอคอย

คริสเตียนส่วนใหญ่แสวงหาพระเจ้า แต่เขาลืมว่าพระเยซูบอกให้เขาแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า สองสิ่งนี้ต่างกัน  

การแสวงหาพระเจ้า  คือ การแสวงหาให้รู้จักกับพระเจ้า  ว่ามีถิ่นฐาน เป็นอยู่อย่างไร?
การแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า คือ การแสวงหาถิ่นฐาน และเข้าไปอยู่อาศัยในแผ่นดินนั้น  ความจริงแผ่นดินที่ว่านั้นก็คือ ผงคลีดินที่พระเจ้าทรงปั้นเราขึ้นมา (มนุษย์ทุกคน)  แต่ที่เหนือกว่าผงคลีดินทั่วไปนั่นก็คือ ลมปราณของพระเจ้า หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เรารับเข้าไป แต่ที่มันไม่เกิดผลมาก  ก็เพราะเราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าในลักษณะของการแสวงหาพระเจ้า  นั่นคือ ทุกวันอาทิตย์หรือตอนที่มีปัญหา จึงแสวงหาพระวิญญาณ แทนที่จะให้พระองค์ทรงอยู่กับเราและนำเรา

เมื่อพระเยซูทรงตรัสถึงแผ่นดินของพระเจ้า  พระองค์มักใช้คำว่า  แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว และบัดนี้ก็มาถึงแล้ว เพราะแท้จริงแล้วแผ่นดินของพระเจ้าสามารถเกิดขึ้นในเราได้ตลอดเวลา เมื่อเราให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำในชีวิตของเราตลอดเวลา  แล้วจะทำได้อย่างไร  ก็ในทำนองเดียวกับการที่เราไปสัมผัสพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นแหละ ส่วนใหญ่ก็สัมผัสได้ชั่วคราวในเวลาสั้นๆ ต้องใช้ความเชื่อและเรียนรู้ที่จะยืดช่วงเวลานั่นๆ ให้นานขึ้น  จนสามารถสัมผัสได้ตลอดเวลา

เช่นเดียวกับการสัมผัสพระวิญญาณ  เราต้องใช้การประชุม มีการร้องเพลง  นมัสการ การสัมผัสการทรงสถิตจึงเกิดขึ้น แผ่นดินของพระเจ้าจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้เชื่อมากพอที่จะหนุนใจกันและกัน และเชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์  จนกระทั่งมีจำนวนมากพอที่คนทั่วไปจะเรียกว่า นี่ไงแผ่นดินของพระเจ้าสถิตอยู่กับคนกลุ่มนี้

สรุป ศาสดาพยากรณ์ทุกคนรวมถึงพระเยซู  บอกให้เราแสวงหาเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า  ขอเพียงเราเชื่อในสิ่งที่พระเยซูคริสต์บอก และเปิดใจรับพระวิญญาณบริสุทธิ์  เรียนรู้ให้การทรงสถิตของพระวิญญาณดำรงอยู่กับเรานานๆ และสร้างกลุ่มคนที่มีความเชื่อแบบเดียวกัน  ที่มีพระวิญญาณทรงนำในการดำรงชีวิต  อีกไม่นานเชื่อว่าแผ่นดินของพระเจ้าก็จะปรากฎให้คนทั่วไปได้เห็น  และเขาจะเรียนรู้วิธีการแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าในง่ายขึ้น เร็วขึ้น มากขึ้น จนแผ่นดินโลกกลายเป็นแผ่นดินของพระเจ้า (ไม่ใช่แผ่นดินที่มีคนนับถือศาสนาคริสต์ เพราะศาสนาใดๆ ไม่เกี่ยวกับแผ่นดินของพระเจ้า และไม่ใช่ทางไปยังแผ่นดินของพระเจ้า เส้นทางไปยังแผ่นดินของพระเจ้า  มีทางเดียวเท่านั้น นั่นคือการเชื่อฟังพระเยซู และเชื่อฟังพระเยซูเรื่องอะไร การเชื่อฟังพระเยซูที่สำคัญ คือ การเชื่อฟังที่จะรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มาทรงนำชีวิตของเรา)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น