ความหมายของการมาเป็นคริสเตียน
คริสเตียนคือ...
เริ่มจากปฐมกาล "ข้อ 2 แผ่นดินก็ว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ
และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้น"
ข้อ 27
พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น
พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ข้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง
ข้อ 28 พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า
"จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน
จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ
กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน"
บทที่ 2 ข้อ 7 พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน
ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต
เท่าที่อ่านมาพอจะสรุปได้ว่า มนุษย์มีชีวิตเพราะลมปราณของพระเจ้า ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงผงคลีดิน ส่วนลมปราณของพระเจ้านี้คืออะไร คงต้องแล้วแต่การตีความของแต่ละคน ส่วนผมขอตีความว่า เป็นพระวิญญาณของพระเจ้า
เหตุผลที่ตีความว่าเป็น พระวิญญาณของพระเจ้า
หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่เราเรียกกันในปัจจุบัน
เพราะพระเจ้าประทานสิ่งที่ดีที่สุด ให้สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างเสมอ
และพระวิญญาณของพระเจ้าก็ได้อยู่ร่วมกับพระองค์ตั้งแต่ตอนสร้างโลก และผมเชื่อว่าพระวิญญาณของพระเจ้าคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พระองค์ประทานให้กับเรา
และเป็นพระวิญญาณที่กระทำกิจในองค์พระเยซูคริสต์ขณะเมื่อพระเยซูทรงกระทำกิจบนแผ่นดินโลก เพื่อพระเยซูได้บอกสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์
หลังจากฟื้นขึ้นจากความตาย นั่นคือให้เรารอคอยพระวิญญาณบริสุทธิ์
และพระองค์ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับทุกคน (ทุกคน) ที่รอคอย
คริสเตียนส่วนใหญ่แสวงหาพระเจ้า
แต่เขาลืมว่าพระเยซูบอกให้เขาแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า
สองสิ่งนี้ต่างกัน
การแสวงหาพระเจ้า
คือ การแสวงหาให้รู้จักกับพระเจ้า
ว่ามีถิ่นฐาน เป็นอยู่อย่างไร?
การแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า คือ การแสวงหาถิ่นฐาน
และเข้าไปอยู่อาศัยในแผ่นดินนั้น
ความจริงแผ่นดินที่ว่านั้นก็คือ ผงคลีดินที่พระเจ้าทรงปั้นเราขึ้นมา (มนุษย์ทุกคน) แต่ที่เหนือกว่าผงคลีดินทั่วไปนั่นก็คือ ลมปราณของพระเจ้า หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เรารับเข้าไป
แต่ที่มันไม่เกิดผลมาก
ก็เพราะเราแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าในลักษณะของการแสวงหาพระเจ้า นั่นคือ ทุกวันอาทิตย์หรือตอนที่มีปัญหา จึงแสวงหาพระวิญญาณ
แทนที่จะให้พระองค์ทรงอยู่กับเราและนำเรา
เมื่อพระเยซูทรงตรัสถึงแผ่นดินของพระเจ้า พระองค์มักใช้คำว่า แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว
และบัดนี้ก็มาถึงแล้ว
เพราะแท้จริงแล้วแผ่นดินของพระเจ้าสามารถเกิดขึ้นในเราได้ตลอดเวลา
เมื่อเราให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำในชีวิตของเราตลอดเวลา แล้วจะทำได้อย่างไร ก็ในทำนองเดียวกับการที่เราไปสัมผัสพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นแหละ
ส่วนใหญ่ก็สัมผัสได้ชั่วคราวในเวลาสั้นๆ ต้องใช้ความเชื่อและเรียนรู้ที่จะยืดช่วงเวลานั่นๆ
ให้นานขึ้น จนสามารถสัมผัสได้ตลอดเวลา
เช่นเดียวกับการสัมผัสพระวิญญาณ เราต้องใช้การประชุม มีการร้องเพลง นมัสการ การสัมผัสการทรงสถิตจึงเกิดขึ้น
แผ่นดินของพระเจ้าจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้เชื่อมากพอที่จะหนุนใจกันและกัน และเชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์ จนกระทั่งมีจำนวนมากพอที่คนทั่วไปจะเรียกว่า
นี่ไงแผ่นดินของพระเจ้าสถิตอยู่กับคนกลุ่มนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น